ในปัจจุบันหน้าตาของเว็บไซต์ ที่สามารถลองรับจากการใช้งานทุกรูปแบบตามขนาดเว็บไซต์ที่แสดงผลบนหน้าจอที่มีขนาดแตกต่างกัน ทั้งใน คอมพิวเตอร์ , notebook , มือถือ ,แท็บเล็ต ในการทำเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่ใช่ทำแค่เพียงแสดงผลผ่านจอคอมอย่างเดียวเท่านั้น แต่เว็บไซต์จะต้องรองรับการใช้งานบนหน้าจอขนาดอื่นๆด้วย

Website ในปัจจุบัน ถือเป็นสื่ออีกหนึ่งอย่างที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี นอกจากลูกค้าสามารถเข้ามาดูผลงานต่างๆแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรอีกด้วย มาทำความรู้จักเว็บไซต์กันก่อน ก่อนที่เราจะเข้าในเรื่องของ Responsive Web Design เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนหน้าตาของบ้านเป็นการสื่อสารผ่านโลก Online โดยใช้อินเตอร์เน็ตในการเข้าถึง จะบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ แสดงถึงว่าธุรกิจของคุณทำอะไร และทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณค้นหาธุรกิจคุณเจอ เราจะต้องรู้ว่าเราสร้างเว็บไซต์นี้ขึ้นเพื่ออะไรมีเป้าหมายเพื่อให้ใครเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ เช่นอาจจะทำขึ้นมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ เพื่อทำให้องค์กรเป็นที่รู้จัก เพื่อขายของเพิ่มกลุ่มลูกค้า หรือ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาเห็นแล้วสามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการได้ เมื่อรู้วัตถุประสงค์ของเราแล้ว การทำก็จะง่ายขึ้นสามารถรู้สิ่งที่ธุรกิจเราต้องการทำให้มีจุดมุ่งหมายในการสร้างและพัฒนาเว็บกันต่อไปได้

ในสมัยก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มี Responsive  นั้นการจัดหน้าต่างของเว็บไซต์ในช่วงก่อนจะถูกออกแบบให้รองรับกับขนาดของหน้าจอ computer หรือ ที่มักเรียกกันว่า “Desktop” เท่านั้น แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมการใช้งานถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้นก็เข้ามา อุปกรณ์มือถือมีรุ่นต่างๆที่ออกแบบมานั้นหลากหลายรุ่นหลากหลายขนาด เปลี่ยนแปลงนำเสนอในรูปแบบในการใช้งานที่เปลี่ยนออกไปจากเดิม เริ่มมีการใช้อุปกรณ์มือถือที่เป็นหน้าจอแบบ touch screen ที่สามารถเลื่อนได้ตามปลายนิ้วของเราถูกนำมาใช้งานมากขึ้นตามพฤติกรรมของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

หากผู้ถึง Responsive ความหมายง่ายๆก็คือ เป็นการแก้ไขให้เว็บไซต์ปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามอุปกรณ์ที่เราใช้เปิดเว็บไซต์นั้นเอง การที่เว็บไซต์จะสามารถตอบสนองได้ในทุกๆอุปกรณ์ จะทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมภายในเว็บไซต์ของคุณรู้สึกสบายตามากขึ้นเมื่อได้อ่านข้อความ หรือ พิกเจอร์ต่างๆที่ถูกจัดวางในรูปแบบที่ควรจะเป็น ทำให้สามารถเปิดอ่านได้อย่างสะดวก สบายตา เปิดดูข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น การออกแบบเว็บที่ตอบสนองนั้นมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์และน่าพึงพอใจไปยังผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใช้บนอุปกรณณ์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือ โทรศัพท์มือถือล้วนได้รับประโยชน์จากเว็บไซต์ที่ตอบสนองได้ดี

โดยส่วนใหญ่มักจะใช้ Fluid Grid technique จะเป็นการออกแบบภายในปรับตัวโดยใช้ขนาด Pixels ที่แตกต่างกันที่ขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน จะกำหนดให้สัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ , Flexible Images จะเป็นการกำหนดขนาดของรูปภาพที่แสดงภายในเว็บให้มีรูปแบบการแสดงผลที่เปลี่ยนไปตามขนาดของอุปกรณ์เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามตามขนาด และ CSS3 Media Queries เป็นคำสั่งสื่อช่วยให้สามารถปรับแต่งการนำเสนอของหน้าเว็บช่วยให้กำหนด style sheets สำหรับ Devices ต่างๆ สำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลายเปลี่ยนความกว้างของหน้าเว็บและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง เทคนิคเหล้านี้จะเข้ามาช่วยจัดทำขนาดให้เป็นไปตามที่ต้องการ

ข้อดี ของ Responsive 

• สามารถรองรับการแสดงผลได้ทุกขนาดของอุปกรณ์ ทั้งใน คอมพิวเตอร์ PC , notebook , smartphone ,แท็บเล็ต,  iPad ฯลฯ
• สะดวกในการดูแลการจัดการเว็บไซต์ และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ทีละหลายๆหน้า ไม่ต้องดำเนินการแก้ไขข้อมูลหลายหน้า
• ลดความซับซ้อนในการจัดทำ ช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการจัดทำ
• สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานบนมือถือได้ ทำให้ใช้งานสะดวก สบายมากยิ่งขึ้น

ข้อเสีย ของ Responsive

• แก้ไขโครงสร้างได้ยาก อาจจะทำให้เกิดปัญหาในด้านอื่นๆตามมา
• มือถือขนาดเล็กอาจจำเป็นจะต้องตัดข้อมูลบ้างส่วนออก
• การเขียนโค้ดเดียวให้มีการรองรับ Devices ที่หลากหลายอาจทำให้เกิดปัญหา

การออกแบบ web site ที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์นั้นได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่มีสื่อ Digital ที่ใช้ในการเผยแพร่ Data ข่าวสารต่างๆออกไปยังกลุ่ม Terget เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่มักจะ search ข้อมูลจากทางคอมพิวเตอร์ แต่ในปัจจุบันโดยส่วนมากมักนิยมเปิดเว็บไซต์ หรือ สืบค้นหาข้อมูลต่างๆภายใน Web จากอุปกรณ์มือถือ tablet เป็นส่วนมาก โดยขนาดจอแสดงผลของ equipment ที่มีขนาดเล็กลงจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเค้าโครงของเนื้อหาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาท่องเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เว็บไซต์จะต้องเปลี่ยนแปลงได้ในทุกอุปกรณ์

ประโยชน์ของการทำเว็บไซต์ Responsive 

Size ของหน้าจอจะช่วยทำให้การค้นหาผ่าน mobile เป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการเข้ามาในเว็บแล้วไม่สามารถโหลดข้อมูลได้ หรือ หน้าต่างไม่เป็นไปตามโครงสร้างของ Touch screen ซึ่งเกิดความไม่สัมพันธ์กันการกดย่อ / ขยาย / ยึด ในหน้าเว็บที่มีเนื้อหาที่มองไม่เห็นรูปเห็นไม่ครบถ้วน message ที่ส่งไปขาดหายทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์เกิดความรู้สึกไม่อยากเข้าใช้งานได้ การทำ Responsive เพียงแค่ไซต์เดียวก็รองรับทุกอุปกรณ์ และไม่ต้องทำหลายๆหน้า ช่วยให้ไม่หนักเซิฟเวอร์ การ Design ในรูปแบบที่โดดเด่น สวยงาม ดูง่าย ข้อมูลจะแสดงผลออกมาอยู่ในหน้าเดียวกัน ถือว่าส่งผลดีต่อการทำ Search Engine สามารถทำให้ Google เก็บ Content ต่างๆของหน้าเว็บได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น

จะเห็นว่าการทำ Responsive Web Design ให้สามารถรองรับได้ในทุกอุปกรณ์นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากในการทำเว็บไซต์ นอกจากจะทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกแล้ว ยังทำให้เว็บไซต์น่าอ่านมากขึ้น เพิ่มการเข้าถึงได้มากขึ้นอีกด้วย Website developer จึงให้ความสำคัญกับ Responsive ที่ตอบสนองจะปรับโดยอัตโนมัติสำหรับหน้าจอขนาดต่าง ๆ เป็นอย่างมากและ ในทุกธุรกิจที่มีเว็บไซต์ก็จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้ธุรกิจได้เปรียบในด้านของการแข่งขันมากขึ้น และดูมีความเป็นมืออาชีพและมีคุณภาพมากขึ้น

ติดตามข่าวสาร wisdom (digital creative agency) เพิ่มเติมได้ที่ : https://wisdomstudio.co.th/article/

ติดตามบทความทาง Facebook : https://www.facebook.com/Thewisdom.Ltd/posts/703634006716576